เมดิควีนส์ คลินิก
ปรับรูปหน้า เติมเต็มร้องลึก ด้วยโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ หมอกอล์ฟ ประสบการณ์มากกว่า 10 ปี
ฟิลเลอร์ (Filler) คือ สารสังเคราะห์ที่มีความคงตัวสูง สลายได้เองตาม ธรรมชาติ และก่อให้เกิดอาการแพ้น้อย โดยสารที่นิยมใช้ในปัจจุบัน คือกรด ไฮยาลูโลนิก (Hyaluronic Acid) หรือเอชเอ (HA) เป็นสารที่พบได้ในชั้นผิว ปกติ และจะมีปริมาณลดลงเมื่ออายุมากขึ้น ดังนั้นในทางการแพทย์จึงมีการ คิดค้น ไฮยาลูโลนิก (Hyaluronic) สังเคราะห์ขึ้นมา เพื่อใช้ฉีดเติมเต็มเข้าไปใน ชั้นผิวหนังเพื่อทดแทนเส้นใยคอลลาเจนที่สลายไป ช่วยในการเติมเต็มรูปหน้า เติมร่องลึกต่าง ๆ และปรับรูปหน้าให้สมส่วนมากยิ่งขึ้น
กลไกการออกฤทธิ์ของฟิลเลอร์ (Filer) กลไกการออกฤทธิ์ของกรด ไฮยาลูโลนิก (Hyaluronic Acid) หรือเอชเอ (HA) คือการที่สารไปจับตัวกับน้ำ ในชั้นผิวหนังเกิดการคงรูปของฟิลเลอร์ช่วยทำให้บริเวณที่เป็นร่องลึกดูตื้นขึ้น แลดูอ่อนเยาว์ลง และปรับรูปหน้าให้สมส่วน
หลังฉีดฟิลเลอร์ (Filer) จะอยู่ได้นานเท่าไร? สามารถคงอยู่ในร่างกายได้ ตั้งแต่ 6 เดือน - 2 ปี และจะสลายไปเองโดยไม่เหลือสารตกค้าง ขึ้นอยู่กับชนิด ของฟิลเลอร์ ตำแหน่งที่ได้รับการฉีด วิธีการฉีด รวมถึงวิธีการดูแลตนเองหลัง การฉีดฟิลเลอร์
คือ ฟิลเลอร์ที่สามารถสลายตัวได้เองตามธรรมชาติ มีความปลอดภัยสูง เป็นที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน และเป็นชนิดเดียวที่ผ่าน สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย.ไทย นั่นคือ ฟิลเลอร์ชนิดสารเติมเต็ม Hyaluronic Acid (HA) สามารถอยู่ได้ ประมาณ 6-24 เดือน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อและรุ่นฟิลเลอร์ เมื่อฟิลเลอร์สลายตัวก็สามารถเติมใหม่ได้เรื่อยๆ
คือ ฟิลเลอร์ที่ไม่สามารถสลายได้หมด 100% ฟิลเลอร์แบบกึ่งถาวร จะมีความปลอดภัยน้อยกว่าฟิลเลอร์แบบชั่วคราว สามารถอยู่ได้นาน ประมาณ 2-5 ปี ตัวอย่างฟิลเลอร์แบบกึ่งถาวร เช่น สารแคลเซียม ไฮดรอกซีอะพาไทต์ (Calcium Hydroxyapatite) สาร PLLA
(Poly-L-lactic acid) และ สาร Polyalkylimide สารเติมเต็มในกลุ่ม ฟิลเลอร์แบบกึ่งถาวรอาจเกิดผลข้างเคียงได้ เนื่องจากไม่สามารถสลาย ได้หมด เมื่อฉีดไปนานๆ อาจเกิดปัญหาฟิลเลอร์เป็นก้อน หรือการอักเสบ ตามมา ทำให้รักษา หรือแก้ไขได้ยาก ฟิลเลอร์แบบกึ่งถาวรนี้มีใช้ใน ต่างประเทศ แต่ยังไม่ผ่านอย.ในประเทศไทย
คือ ฟิลเลอร์ที่ไม่สามารถย่อยสลายได้ เป็นฟิลเลอร์ที่อยู่แบบถาวร และเป็นฟิลเลอร์ที่ไม่ผ่านอย. โดยสารเติมเต็มในกลุ่มฟิลเลอร์แบบถาวรนี้ เช่น ซิลิโคนเหลว พาราฟิน และ สาร PMMA (Polymethyl-methacrylate microspheres) หลังฉีดไปแล้วผิวจะไม่สามารถ ดูดซึมได้ ทำให้ตกค้างอยู่ในชั้นผิว ฟิลเลอร์แบบถาวรนี้มีผลข้างเคียง ในระยะยาว เช่น ฟิลเลอร์ไหล ฟิลเลอร์ย้อยผิดรูป หรือกลายเป็นพังผืด การรักษาทำได้โดยผ่าตัดออก หรือขูดออกเท่านั้น ไม่มียาฉีดสลายฟิลเลอร์ ผู้ที่จะฉีดฟิลเลอร์จึงไม่ควรฉีดสารเติมเต็มชนิดนี้
คุณหมอกอล์ฟมีประสบการณ์ในด้านการปรับรูปหน้าโดยใช้ฟิลเลอร์ ร้อยไหม โบท็อกซ์มามากกว่า 10 ปี ดูแลมามากกว่า 4000 เคส ประเมินใบหน้าคนไข้ก่อนเริ่มหัตถการทุกเคส วิเคราะห์และให้คำแนะนำอย่างตรงไปตรงมา เข้าใจถึงปัญหาสภาพผิวขิงคนไข้และเลือกใช้ฟิลเลอร์ได้อย่างเหมาะสม เพื่อผลลัพธ์ที่ดี มือเบาปั้นสวย คลินิกที่ได้มาตรฐานปลอดภัย เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ผ่านอย.ไทย สั่งตรงกับบริษัทนำเข้า สามารถตรวจสอบขอผลิตภัณฑ์ที่ใช้แล้วกลับบ้านได้ รีวิวแน่น
หากมีประวัติเหล่านี้ควรแจ้งให้แพทย์รับทราบก่อนทำการฉีดฟิลเลอร์ ได้แก่ เคยมีประวัติแพ้ยา มีโรคประจำตัว มียารับประทานประจำ
กำลังตั้งครรภ์ หรืออยู่ในระยะให้นมบุตร
หากรับประทานยา/อาหารเสริมที่มีผลทำให้เลือดออกง่าย
เช่น ยากลุ่มแอสไพริน (Aspirin) วาร์ฟาริน (Warfarin) วิตามินอี น้ำมันตับปลา สารสกัดจากใบแปะก๊วย โสม กระเทียม เป็นต้น ควรแจ้งให้แพทย์รับทราบ เนื่องจากอาจทำให้เกิดรอยเขียวช้ำ จากอาการเลือดออกใต้ผิวหนังหลังฉีดได้
หลีกเลี่ยงการสัผัส บีบนวด หรือคลึงบริเวณที่ฉีด ฟิลเลอร์ เพราะอาจทำให้เกิดการเคลื่อน (migration) ของฟิลเลอร์ไปจากบริเวณที่ฉีดได้
แนะนำดื่มน้ำมาก *อย่างน้อยวันละ 6 - 8 แก้ว หรือ 2 ลิตร/วัน โดยเฉพาะช่วง 4 - 5 วันแรก การดื่มน้ำจะช่วยให้ฟิลเลอร์ที่เป็นสารอุ้มน้ำ ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
2 วันแรกหลังฉีด ควรหลีกเลี่ยงการทาผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ที่มีส่วนประกอบของเอเอชเอ (AHA) บีเอชเอ (BHA) หรือวิตามินเอ (Retinoids) เนื่องจากอาจทำให้เกิดการระคายเคืองกับผิวบริเวณที่ฉีดได้
2 วันแรกหลังฉีด ควรหลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เนื่องจากจะทำให้เลือดสูบฉีดมาก อาจทำให้เกิดเลือดออกภายในเกิดรอยเขียวช้ำบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ได้
2 วันแรกหลังฉีด ควรหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ เนื่องจากทำให้แผลหายช้าลง และในกรณีฉีดฟิลเลอร์ที่ปาก ควรหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่หรือใช้หลอดดูดน้ำ เพราะอาจทำให้รูปร่างของ ปากผิดรูปหลังฉีดได้
2 สัปดาห์หลังฉีด ควรงดการอบไอน้ำ ชาวน่า ทำทรีตเมนต์ หรือทำเลเซอร์ เพราะจะทำให้ฟิลเลอร์สลายตัวเร็วขึ้น
หากมีอาการผิดปกติ เช่น ปวด บวมแดงมาก ผิวหนังเปลี่ยนป็นสีชีด หรือคล้ำขึ้น มีความผิดปกติของการ มองเห็น ควรรีบมาพบแพทย์ทันที